สภาพดินฟ้าอากาศและภูมิอากาศ
อุณหภูมิ ปาล์มน้ำมันจะให้ผลผลิตสูง อุณหภูมิเฉลี่ยต้องไม่เกิน 29-30 °ซ แต่ไม่ต่ำกว่า 22-24°ซ (Hartley, 1977) ซึ่งลักษณะอุณหภูมิดังกล่าวนี้จะพบโดยทั่วไปในเขตร้อน แต่ในที่ระดับเส้นรุ้งสูง ๆ อุณหภูมิอาจจะลดเหลือ 21°ซ เช่น แถบประเทศคองโก อุณหภูมิกลางคืนมักจะต่ำกว่า 21°ซ ซึ่งพบว่าอุณหภูมิต่ำจะมีส่วนทำให้มีการพัฒนาทะลายปาล์มลดลง ในระยะกล้าถ้าอุณหภูมิต่ำกว่า 15°ซ จะทำให้ต้นกล้าชะงักการเจริญเติบโต
ปริมาณน้ำฝน ปริมาณน้ำฝนนับว่าเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเจริญเติบโตของปาล์มน้ำมัน ปริมาณน้ำฝนที่เหมาะสมควรมีมากกว่า 2,000 มม. ต่อปี และควรมีการกระจายตัวของน้ำฝนสม่ำเสมอตลอดปี คือ ต้องไม่มีช่วงแล้งนาน เดือนที่มีฝนตกน้อยที่สุดไม่ควรต่ำกว่า 100 มม. การผลิตทะลายจะลดลงหากได้รับช่วงแล้งเป็นเวลานาน ถ้าหากฝนทิ้งช่วงนาน 3 เดือน ติดต่อกันแม้จะไม่มีผลต่อการลดการเจริญของต้นปาล์มอย่างชัดเจน แต่ยอดหรือทางใบเกิดใหม่จะยังไม่คลี่จนกว่าจะได้รับความชื้นเพียงพอ
ปริมาณแสง ปริมาณแสงที่พอเหมาะต่อการเจริญเติบโตของปาล์มน้ำมัน อยู่ในช่วง 1,500-2,000 ชม.ต่อปี คิดเฉลี่ยความต้องการต่อวันประมาณ 5-6 ชั่วโมง แสงแดดมีความเกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของปาล์มน้ำมันโดยตรง ความเข้มแสงสูงมีความสัมพันธ์ต่อการผลิตช่อดอกตัวเมียในรอบปี (sex ratio) โดยมีผลทำให้ sex ratio เพิ่มขึ้น
ความชื้น ปาล์มน้ำมันชอบอากาศแบบชุ่มชื้น โดยควรมีความชื้นของบรรยากาศเฉลี่ยในรอบปีสูงกว่า 75% จึงจะทำให้การเจริญเติบโตเป็นไปตามปกติ และให้ผลผลิตสูง
ลักษณะดิน ประเทศมาเลเซียได้รายงานการจัดลำดับความเหมาะสมของดินในการปลูกปาล์มน้ำมันไว้โดยอาศัยคุณสมบัติทางฟิสิกส์ของดินดังนี้ ดินที่เหมาะสมมากในการปลูกปาล์มน้ำมันควรเป็นดินร่วนหรือเหนียว ความลึกของชั้นหน้าดินมากกว่า 75 ซม. ความสามารถในการซึมน้ำปานกลางถึงดี และความลาดชันของพื้นที่น้อยกว่า 12°ซ
สำหรับสภาพความเป็นกรด-ด่างของดิน ช่วงที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของปาล์มน้ำมัน ดินควรจะมีสภาพเป็นกรดอ่อน คือ pH 4.5-6.5
อุณหภูมิ ปาล์มน้ำมันจะให้ผลผลิตสูง อุณหภูมิเฉลี่ยต้องไม่เกิน 29-30 °ซ แต่ไม่ต่ำกว่า 22-24°ซ (Hartley, 1977) ซึ่งลักษณะอุณหภูมิดังกล่าวนี้จะพบโดยทั่วไปในเขตร้อน แต่ในที่ระดับเส้นรุ้งสูง ๆ อุณหภูมิอาจจะลดเหลือ 21°ซ เช่น แถบประเทศคองโก อุณหภูมิกลางคืนมักจะต่ำกว่า 21°ซ ซึ่งพบว่าอุณหภูมิต่ำจะมีส่วนทำให้มีการพัฒนาทะลายปาล์มลดลง ในระยะกล้าถ้าอุณหภูมิต่ำกว่า 15°ซ จะทำให้ต้นกล้าชะงักการเจริญเติบโต
ปริมาณน้ำฝน ปริมาณน้ำฝนนับว่าเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเจริญเติบโตของปาล์มน้ำมัน ปริมาณน้ำฝนที่เหมาะสมควรมีมากกว่า 2,000 มม. ต่อปี และควรมีการกระจายตัวของน้ำฝนสม่ำเสมอตลอดปี คือ ต้องไม่มีช่วงแล้งนาน เดือนที่มีฝนตกน้อยที่สุดไม่ควรต่ำกว่า 100 มม. การผลิตทะลายจะลดลงหากได้รับช่วงแล้งเป็นเวลานาน ถ้าหากฝนทิ้งช่วงนาน 3 เดือน ติดต่อกันแม้จะไม่มีผลต่อการลดการเจริญของต้นปาล์มอย่างชัดเจน แต่ยอดหรือทางใบเกิดใหม่จะยังไม่คลี่จนกว่าจะได้รับความชื้นเพียงพอ
ปริมาณแสง ปริมาณแสงที่พอเหมาะต่อการเจริญเติบโตของปาล์มน้ำมัน อยู่ในช่วง 1,500-2,000 ชม.ต่อปี คิดเฉลี่ยความต้องการต่อวันประมาณ 5-6 ชั่วโมง แสงแดดมีความเกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตของปาล์มน้ำมันโดยตรง ความเข้มแสงสูงมีความสัมพันธ์ต่อการผลิตช่อดอกตัวเมียในรอบปี (sex ratio) โดยมีผลทำให้ sex ratio เพิ่มขึ้น
ความชื้น ปาล์มน้ำมันชอบอากาศแบบชุ่มชื้น โดยควรมีความชื้นของบรรยากาศเฉลี่ยในรอบปีสูงกว่า 75% จึงจะทำให้การเจริญเติบโตเป็นไปตามปกติ และให้ผลผลิตสูง
ลักษณะดิน ประเทศมาเลเซียได้รายงานการจัดลำดับความเหมาะสมของดินในการปลูกปาล์มน้ำมันไว้โดยอาศัยคุณสมบัติทางฟิสิกส์ของดินดังนี้ ดินที่เหมาะสมมากในการปลูกปาล์มน้ำมันควรเป็นดินร่วนหรือเหนียว ความลึกของชั้นหน้าดินมากกว่า 75 ซม. ความสามารถในการซึมน้ำปานกลางถึงดี และความลาดชันของพื้นที่น้อยกว่า 12°ซ
สำหรับสภาพความเป็นกรด-ด่างของดิน ช่วงที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของปาล์มน้ำมัน ดินควรจะมีสภาพเป็นกรดอ่อน คือ pH 4.5-6.5